วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

การจัดการความรู้ในระดับต่างๆ

นางนิศานาถ  ปัดทุม รหัส 575003046-5

 
การจัดการความรู้ระดับบุคคล
สถานะ/ตำแหน่งของบุคคล นักศึกษา
1. เรื่อง/ประเด็นความรู้ที่บุคคลที่มีสถานะ/ตำแหน่งข้างต้นต้องจัดการ (ทั้งเรื่องส่วนตัว ครอบครัว สังคม และงานในหน้าที่
เรื่องส่วนตัว
ครอบครัว
สังคม
งานในหน้าที่
การพักผ่อน
การอยู่ร่วมกัน
การทำบุญ
แบ่งเวลา
การทำงาน
การดูแลพ่อแม่
การทำงานร่วมกับผู้อื่น
ความรับผิดชอบ
การเรียน
การดูทีวีร่วมกัน
การแบ่งปัน
ตั้งใจทำงาน
การเลี้ยงลูก
การสอนการบ้านลูก
การบริจาค
ลำดับความสำคัญ
การคบเพื่อน
การซักผ้า
การกำจัดขยะ
มีความซื้อสัตย์
การจับจ่ายซื้อของ
การให้ความรัก
การประหยัดน้ำ
อาหาร
การทำกับข้าว
การลดโลกร้อน
การทำนา
การมีเวลาให้กัน
การสังสรรค์กับเพื่อน

2. บุคคลที่มีสถานะ/ตำแหน่งข้างต้นจะมีแนวทาง/วิธีการจัดการความรู้สำคัญ 5 เรื่อง/ประเด็นอย่างไร (ผู้เรียนกำหนดเองว่า 5 เรื่อง/ประเด็น มีอะไรบ้าง)
เรื่อง/ประเด็นความรู้ที่สำคัญ

แนวทาง/วิธีการจัดการความรู้
1. การดูแลพ่อแม่
พ่อแม่เป็นบุคคลที่เราต้องกตัญญูรู้คุณ จะต้องดูแลท่าน เป็นอย่างดี ดำเนินการดังนี้
1.             รักและเคารพ เชื่อฟังท่าน
2.             ให้เงินท่าน และสิ่งที่ท่านต้องการตามกำลังที่เราจะหาได้ ไม่เดือดร้อน
3.             พาท่านไปเที่ยวบางในบางครั้ง
4.             สนับสนุนการทำบุญของท่าน
5.             ทำอาหารที่ท่านชอบ
6.             พาไปหาหมอ
2. การเลี้ยงลูก
สอนให้รู้จักผิดถูก หากทำผิดต้องมีการทำโทษบ้าง แล้วสอนอย่างมีเหตุผล
สนับสนุน และส่งเสริมการเรียนรู้ของลูก ไม่มีทรัพย์สินใดที่จะมีค่ามากกว่าการเรียนที่จะเป็นสมบัติติดตัวเขาไปจนโต เมื่อเราไม่อยู่แล้วเขาก็สามารถที่จะอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข ไม่เป็นภาระสังคม  และสามรถทำประโยชน์ให้สังคมได้
3.การอยู่ร่วมกันในครอบครัว
การอยู่ร่วมกัน เชื่อว่าทุกคนต้องการเวลาว่างเป็นของตนเอง เมื่ออยู่ร่วมกันแล้วจะต้องแบ่งเวลาส่วนตัวมาเป็นเวลาส่วนร่วม ได้อย่างเหมาะสม ไม่เห็นแก่ตัว ต้องช่วยเหลือกัน ไม่แบ่งว่าเป็นงานผู้หญิงหรืองานผู้ชาย เวลาส่วนตัวจะต้องไม่ก้าวก่ายกัน หากมีปัญหาจะต้องช่วยเหลือและหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน ไม่โทษว่าเป็นความผิดของคนใดคนหนึ่ง ต้องไม่ให้ภาระตกเป็นของคนใดคนหนึ่งมากเกินไป
4. การกำจัดขยะ
ขยะคือสิ่งที่คนเราไม่ต้องการ และเป็นมลพิษต่อโลกใบนี้ การที่โลกร้อนขึ้นทุกวันสาเหตุหลักๆมาจากขยะ ดังนั้นจึงต้องจัดการขยะ โดยการแยกขยะให้เป็นส่วนๆ เช่น 1. ขยะพลาสติกที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีก และสามารถขายเป็นรายได้เล็กๆน้อย หากไม่ขายก็ให้คนเก็บขยะไปขายได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องมาคุ้ยขยะให้กระจัดกระจาย
2. ขยะเปียก ซึ่งเป็นขยะเน่าเหม็น ต้องจัดการโดยเทลงดินเป็นปุ๋ย หรือทำน้ำหมักเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ นาข้าว
5. การทำงาน
การทำงาน จะต้องมีความเพียร ตั้งใจ ทำงาน ขยัน เอาใจใส่ในงานที่ตนได้รับผิดชอบ มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานนั้นๆให้สำเร็จ

การจัดการความรู้ระดับครัวเรือน
อาชีพหลักของครัวเรือน  การเลี้ยงจิ้งหรีด
1. เรื่อง/ประเด็นความรู้ที่ครัวเรือน (หัวหน้าครัวเรือน) ที่มีอาชีพหลักข้างต้นต้องจัดการ (ทั้งเรื่องการจัดการการประกอบอาชีพ และสังคม
ครัวเรือน
การประกอบอาชีพ
สังคม
วิธีการเลี้ยงจิ้งหรีด
ทำบัญชีครัวเรือน
การเลี้ยงจิ้งหรีดของเพื่อนบ้าน
การให้อาหาร
การเตรียมโรงเรือน
ไข่จิ้งหรีด
การทำงานร่วมกัน
การเตรียมพื้นที่
อาหารจิ้งหรีด
การแบ่งเบาภาระ
การเตรียมแรงงาน
อุปกรณ์การเลี้ยง
การจัดการรายได้
อุปกรณ์เลี้ยง
การแปรรูป
อาหาร
การช่วยเหลืองสังคม
การขาย
การจัดการหลังจับจิ้งหรีด

2. หัวหน้าครัวเรือนที่มีอาชีพหลักข้างต้นจะมีแนวทาง/วิธีการจัดการความรู้สำคัญ 5 เรื่อง/ประเด็นอย่างไร (ผู้เรียนกำหนดเองว่า 5 เรื่อง/ประเด็น มีอะไรบ้าง)
เรื่อง/ประเด็นความรู้ที่สำคัญ
แนวทาง/วิธีการจัดการความรู้
1.การให้อาหารจิ้งหรีด
หัวหน้าครัวเรือนสร้างความรู้ โดยเรียนรู้จากผู้ที่เลี้ยงจิ้งหรีดมาก่อน และหน่วยงานราชการและภาคเอกชนที่ให้ความรู้ และเรียนรู้ด้วยตนเองจากการลองผิดลองถูก แล้วรวบรวม และสะสมความรู้เป็นความรู้ในตัวบุคคล และเผยแพร่สู่ บุคคลในครัวเรือน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ เป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระในครัวเรือน
2.ทำบัญชีครัวเรือน รายรับรายจ่ายในครัวเรือน
สร้างความรู้ สะสม เรียนรู้ วิธีการจัดทำบัญชีควรเรือนจากหน่วยงานที่มาให้ความรู้ เผยแพร่สู่ครัวเรือนเพื่อนำไปใช้ประโยชน์
3.การช่วยเหลือสังคม
เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้เรื่องจิ้งหรีดให้แก่ผู้สนใจทั่วไป เป็นวิทยากรให้แก่หน่วยงานราชการ
4. การแบ่งปันไข่จิ้งหรีด
มีการแบ่งปันไข่จิ้งหรีดให้แก่นักเรียนเพื่อประกอบการเรียนการสอน และเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้
5.การจัดการรายได้
การจัดการรายได้ โดยแบ่งเป็นเงินออม 30 % ลงทุน 30% ใช้จ่ายในครัวเรือน 30%  และ 10% เป็นการใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ทำบุญ ท่องเที่ยว เป็นต้น เป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างภรรยา

การจัดการความรู้ระดับกลุ่ม/องค์กร
สถานะ/ตำแหน่งของบุคคล กลุ่มวิสาหกิจชุมชนการปลูกผักปลอดสารพิษบ้านสว่าง-ซำโอง อ.ซำสูง
1. เรื่อง/ประเด็นความรู้ที่กลุ่ม/องค์กร (ประธาน/กรรมการกลุ่ม/องค์กร) ข้างต้นต้องจัดการ (ทั้งเรื่องการจัดการกลุ่มขององค์กร กิจกรรมสร้างรายได้ และการประสานงานกับหน่วยงาน/องค์กรอื่น
การจัดการกลุ่ม/องค์กร
กิจกรรมสร้างรายได้
การประสานงานกับ
หน่วยงาน/องค์กร
การประชุมกลุ่ม
ประชาสัมพันธ์สินค้า
การจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์
กฎระเบียบของกลุ่ม
การออกร้าน
การประสานด้านการขาย
การแบ่งปันผลประโยชน์
การวางแผนการผลิต
สร้างเครือข่าย
การพัฒนาผลิตภัณฑ์

2. ประธาน/กรรมการกลุ่ม/องค์กรจะมีแนวทาง/วิธีการจัดการความรู้สำคัญ 5 เรื่อง/ประเด็นอย่างไร
(ผู้เรียนกำหนดเองว่า 5 เรื่อง/ประเด็น มีอะไรบ้าง)

เรื่อง/ประเด็นความรู้ที่สำคัญ
แนวทาง/วิธีการจัดการความรู้
1.การจัดตั้งกฎระเบียบของกลุ่ม
ประชุมจัดตั้งกลุ่มเพื่อกำหนดกฎระเบียบของกลุ่มร่วมกัน แบบประชาธิปไตย โดยกฎระเบียบจะต้องกำหนดร่วมกัน และอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง เป็นข้อตกลงร่วมกันของสมชิกกลุ่ม โดยจะต้องมีการกำหนดบทบาทหน้าที่ของสมาชิก เพื่อเป็นแรงในการขับเคลื่อนกลุ่มให้ประสบผลสำเร็จต่อไป
2.การประชุมกลุ่ม
การประชุมกลุ่ม เพื่อให้สมาชิกทราบว่ากลุ่มมีการดำเนินการอย่างไร สถานะของกลุ่มเป็นอย่างไร หาแนวทางการพัฒนาต่อไป และหาแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน การประชุมเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีในสมาชิกเข้าใจบทบาทของตนเอง และเข้าใจสถานะของกลุ่ม
3.การประชาสัมพันธ์
การสร้างต้องสร้างผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ สร้างตราสินค้า โดยมีการเก็บ และสะสมข้อมูลสินค้าของกลุ่ม จากนั้นนำข้อมูลไปจัดทำเป็นเอกสาร เช่น  แผ่นพับ ป้ายประชาสัมพันธ์ แล้วนำไปใช้ประโยชน์ในงานต่างๆเพื่อให้ผู้คนรู้จักสินค้า
4.การวางแผนการผลิต
มีการวางแผนร่วมกัน เพื่อกำหนดชนิด และปริมาณการผลิต ให้สอดคล้องกับแรงงานการผลิต  และความต้องการของตลาด เพื่อให้ได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า
5.การสร้างเครือข่าย
การสร้างเครือข่ายโดยการ
1.หาข้อมูลกลุ่มเครือข่าย โดยค้นหาข้อมูลกลุ่มที่มีการผลิตผัก
2. รวมรวม และสะสมข้อมูลกลุ่มผู้ปลูกผัก เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ที่จะสร้างเครือข่าย
3.เชิญกลุ่มเป้าหมาย ประชุมเพื่อกำหนดแนวทางในการผลิตผักร่วมกัน

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

การจัดการความรู้การเลี้ยงจิ้งหรีดเพื่อการค้าในครัวเรือนเกษตรกร

การจัดการความรู้การเลี้ยงจิ้งหรีดเพื่อการค้าในครัวเรือนของนายเพ็ชร วงค์ธรรม  
1.         ข้อมูลพื้นฐานของครัวเรือนเกษตรกร
1.1       ประวัติเกษตรกร
            - นายเพ็ชร  วงค์ธรรม อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 8 บ้านแสนตอ ตำบลบัวใหญ่ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
              - อายุ 53 ปี            
             - ภูมิลำเนา บ้านหนองแวง  ตำบลเกษตรวิสัย อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
        - จบการศึกษา ประถมปีที่ 6
             - ภรรยาชื่อ นางอุไรวรรณ  วงศ์ธรรม  อายุ 46 ปี แต่งงานเมื่ออายุ 23 ปี
            - บุตรสาว 2 คน  คนแรกอายุ 21 ปี (ศึกษาปีที่ 3 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม) คนที่ 2 อายุ 16 ปี
           - สมาชิกในครัวเรือน ทั้งหมด 5 คน (ตนเอง ภรรยา ลูก และพี่ชายภรรยา)


1.2 ประวัติการประกอบอาชีพ
                - ขับสองแถวในจังหวัดขอนแก่น  10 ปี  อายุ 23 ปี
                - เลี้ยงหมู  3 ปี
                - เลี้ยงนกกระทา 2 ปี
                - เพาะถั่วงอก 6 ปี
                - เลี้ยงจิ้งหรีด 9 ปี (เริ่มปี 2550) 
      1.3 รายละเอียดประวัติการเลี้ยงจิ้งหรีด
          - เริ่มเลี้ยงจิ้งหรีดเมื่ออายุ 44 ปี
          - ไปเยี่ยมเพื่อนที่อำเภอกัณทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม
          -  เห็นมีคนเลี้ยง สนใจ ศึกษาวิธีการเลี้ยง
          - ซื้อไข่จิ้งหรีด ขันละ 100 บาท เป็นเงิน 60,000 บาท  และอุปกรณ์ 70,000 บาท รวมลงทุนครั้งแรก 130,000 บาท
          - ครั้งแรกประสบผลสำเร็จ ขายได้กำไร ทำให้มีกำลังใจในการที่จะดำเนินการต่อไป
          - การดูแลเอาใจใส่ และเรียนรู้ เฝ้าดูอยู่ไม่ห่างทำให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
1.5 กิจกรรมการเกษตรทั้งหมด
- ทำนา 9 ไร่ เพื่อบริโภคและจำหน่ายหากเหลือจากการบริโภค
- ทำสวนกล้วย 8 ไร่ จำหน่ายเป็นรายได้ โดยจำหน่ายเป็น กล้วยดิบ ใบตอง หน่อกล้วย มีรายได้ 100,000 บาท/ปี
- เลี้ยงจิ้งหรีด 22 คอก (ขนาด 2.8 X 4 เมตร) เป็นอาชีพและรายได้หลัก
    1.6   สภาพทางเศรษฐกิจของครัวเรือน
- ที่ดิน ทั้งหมด 20 ไร่ 2 งาน (ได้มาจากมรดกภรรยา และซื้อหา)
        - แรงงานในการเลี้ยงจิ้งหรีด 3 คน (ตนเอง ภรรยา พี่ชายภรรยา)
        - เงินทุน โดยเงินขอนตนเอง ไม่มีหนี้สิน เริ่มแรก 130,000 บาท
        - รายได้จากการทำการเกษตร
           - รายได้หลักการเลี้ยงจิ้งหรีด  160,000-170,000 บาท/รุ่น 1 ปี เลี้ยง 8 รุ่น  เป็นเงิน 1,280,000 บาท    (รายได้ประมารเดือนละ 106,000 บาท)
                - รายได้จากการปลูกกล้วย  ปีละประมาณ 100,000 บาท (ขายใบตอง หน่อ ปลี ผล)
- รายได้จ่ายประมาณ 50%ของรายได้
                - ค่าอาหารเป็นส่วนใหญ่
                - ค่าอุปกรณ์ เช่น ถาดไข่ใช้ได้หลายรุ่น ประมาณ 1 ละครั้ง
                - ปัญหา
                - ราคาอาหารจิ้งหรีด มีราคาแพง
                - ด้านการตลาด หากผลผลิตออกเยอะจะทำให้ราคาลดลง แต่อยู่สภาวะที่  
        ยอมรับได้ ไม่กระทบต่อกำไรมากนัก
                - ไม่มีการรวมกลุ่มกันขาย
                - ไม่มีห้องเย็นเก็บผลผลิต                                                 
   1.7 สภาพทางสังคมของครัวเรือน
                1) การเป็นสมาชิกกลุ่ม
                                - เป็นผู้ใหญ่บ้านบ้านแสนตอ หมู่ที่ 8
                                - เป็นประธานศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพสินค้าเกษตร (ศพก.) ของกรมส่งเสริมการเกษตร
                                -  เป็นประธานกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียง ในโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน (สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี )
2)  การอบรมและพัฒนาบุคลากร
                - ผ่านการอบรมหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน (สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี )
                - ผ่านการอบรมโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน (สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ) ณ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช และสำนักงานโครงการฯ
                - เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ในศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพสินค้าเกษตร (ศพก.) ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่อำเภอน้ำพอง จำนวน 250 คน
      - เรียนรู้การเลี้ยงจิ้งหรีดจาก ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดขอนแก่น (ศูนย์ผึ้ง)
                - การถ่ายทอดความรู้จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เรื่องการแปรรูปจิ้งหรีด
สภาพทางสังคมของครัวเรือน
 3) การสนับสนุนด้านวิชาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
                -  สำนักงานเกษตรจังหวัดขอนแก่น และสำนักงานเกษตรอำเภอน้ำพอง จัดตั้ง ศพก.
                - ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดขอนแก่น (ศูนย์ผึ้ง) ความรู้การเลี้ยงจิ้งหรีด
                - มหาวิทยาลัยขอนแก่น เรื่องการแปรรูปจิ้งหรีด
                - มกอช. เตรียมความพร้อมมาตรฐาน GAP จิ้งหรีด และระเบียบใหม่เรื่องอาหารที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ (Novel Food) ส่งออกไปต่างประเทศ
4)  ปัญหา
                การทำหน้าที่ผู้นำทำให้ไม่ค่อยมีเวลาในการเลี้ยงจิ้งหรีด ทำให้ผลผลิตลดลง จาก 1.6 ตัน เหลือ 1.5 ตัน ในปีที่ผ่านมา
2. ศึกษาการจัดการความรู้การเลี้ยงจิ้งหรีดเพื่อการค้าในครัวเรือนของนายเพ็ชร วงศ์ธรรม
เพื่อปรับปรุงสภาพการผลิตจิ้งหรีด หรือเป็นองค์ความรู้ที่สามารถนำไปถ่ายทอดสู่บุคคลในครัวเรือน
      ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับจิ้งหรีด
                จิ้งหรีด (Cricket) เป็นแมลงเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่นิยมเลี้ยง และนำมาบริโภคทั่วทุกภาคของประเทศเนื่องจากมีรสชาติอร่อย กรอบ มัน และมีคุณค่าทางอาหารสูง
ในอดีตมีการจับจิ้งหรีดธรรมชาติมาบริโภคภายในครัวเรือนหรือส่งจำหน่ายตามชุมชนเท่านั้น แต่เนื่องด้วยเป็นแมลงที่เมื่อนำมาทอดแล้วมีรสกรอบ มัน ทำให้มีคนชื่นชอบมาก จนปัจจุบันมีการเพาะจิ้งหรีดจำหน่ายเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ และความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน

                ลักษณะทั่วไป
                จิ้งหรีด เป็นแมลงที่มีลำตัวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ขาคู่หลังส่วนต้นมีขยายใหญ่ และแข็งแรง ใช้สำหรับกระโดด ขาคู่หน้ามีขนาดเล็กกว่าขาคู่หลังมาก ใช้สำหรับเดิน และเขี่ยอาหาร มีหนวดยาว เส้น ขนาดเท่าเส้นผมคนเรา ความยาวหนวดประมาณ 3-5 ซม. และมากกว่าลำตัว หนวดมีหน้าที่รับความรู้สึก และรับกลิ่นอาหาร มีปากเป็นแบบกัดกิน ปีกขวาทับปีกซ้าย ปีกคู่หน้าปกคลุมด้วยฟิล์มบางๆ
          พันธุ์จิ้งหรีดที่พบในไทย
ชนิดจิ้งหรีด จิ้งหรีดที่พบในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย มี ชนิด ดังนี้
                1. จิ้งโกร่ง (Brachtrupes Portentosus Lichtenstein)
                จิ้งหรีดชนิดนี้ บางพื้นที่เรียก จิโปมจิ้งกุ่งจินาย เป็นต้น เป็นจิ้งหรีดขนาดใหญ่ ประกอบด้วยส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ลำตัวทุกส่วนมีสีน้ำตาล ยกเว้นขาคู่หลังส่วนบนมีสีเหลือง และส่วนท้องมีสีครีม โตเต็มวัยลำตัวกว้างประมาณ ซม. ยายประมาณ 3.5-4.0 ซม. มีหนวดยาว ขุดรูตามดินร่วนปนทราย ภายในรูที่ความลึก 5-10 ซม. มีรูแยก รู เพื่อหลบภัย บริเวณรอยแยกของรูเป็นโพรงใหญ่สำหรับเก็บอาหาร รูหลักยาวประมาณ 30-50 ซม. ลึกประมาณ 20-30 ซม. กลางวันจะปิดปากรู และอาศัยอยู่ภายใน กลางคืนออกหากิน และส่งเสียงร้องดัง
              
                2.  จิ้งหรีดทองดำ (Gryllus Bimaculatus Degeeer)
                เป็นจิ้งหรีดขนาดกลาง บางพื้นที่เรียก จิโหลน ประกอบด้วยส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ลำตัว และปีกมีสีดำหรือน้ำตาลปนดำทั้งตัว โตเต็มวัยลำตัวกว้างประมาณ 0.6-0.7 ซม. ยาวประมาณ 2.8-3.0 ซม. มีหนวดยาว ตัวผู้ส่วนหัว และอกมีสีดำ ปีกคู่หน้าย่น ปีกมีสีน้ำตาลออกเหลืองเล็กน้อย โดยเฉพาะโคนปีกที่มีสีเหลืองแกม ส่วนตัวเมียส่วนหัว และอกมีสีดำ ปีกคู่หน้าเรียบ ปีกมีสีดำสนิท โคนปีกมีแต้มสีเหลือง จุด ปลายปีคู่หลังทั้งตัวผู้ตัวเมียยื่นยาวมากกว่าลำตัว ปลายท้องมีแพนหางยาว คู่ ชอบอาศัยตามกองไม้ กองใบไม้ ร่องดิน ออกหากินในเวลากลางคืน และไม่ขุดรูอาศัย
                                 ลักษณะสีและลำตัวจิ้งหรีดทองดำ
                3. จิ้งหรีดทองแดง (Teleogryllus Testaceus Walker)
บางพื้นที่เรียก จิ้งหรีดนิล หรือ จินาย หรือ จิ้งหรีดพม่า เป็นจิ้งหรีดขนาดกลาง ประกอบด้วยส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง โตเต็มวัยลำตัวกว้างประมาณ 0.5-0.6 ซม. ยาวประมาณ 2.5-2.80 ซม. ลำตัวทุกส่วนมีสีน้ำตาลเข้ม บริเวณหัวเหนือขอบตามีแถบสีน้ำตาลเข้มรูปตัว ตัวผู้มีสีลำตัวทุกส่วนเข้มกว่าตัวเมีย ด้านล่างท้องมีสีครีม เคลื่อนที่ได้ว่องไว ชอบอาศัยตามกองไม้ กองใบไม้ ร่องดิน ออกหากินในเวลากลางคืน และไม่ขุดรูอาศัย

 
  ลักษณะสีและลำตัวจิ้งหรีดทองแดง
                4. จิ้งหรีดทองลาย (Modicogryllus Confirmata Walker)
จิ้งหรีดทองลาย หรือ นิยมเรียกว่า แมงสดิ้ง ตัวผู้ และตัวเมียมีอายุเต็มวัย 38-60 วัน เป็นจิ้งหรีดขนาดกลาง ประกอบด้วยส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ลำตัวทุกส่วนมีสีเหลืองแกมน้ำตาล มีลักษณะสีเป็นลาย ลำตัวกว้างประมาณ 0.4-0.55 ซม. ยาวประมาณ 2.0-2.5 ซม. ตัวเมียลำตัวมีสีน้ำตาลปนเหลือง ปีกคู่หน้าเรียบมีสีน้ำตาลเป็นลายเส้นชัดเจน ปีกคลุมปลายท้องไม่มิด มีอวัยวะวางไข่คล้ายเข็มสีน้ำตาล  ยาวประมาณ 1.2 เมตร ยาวกว่าแพนหางเล็กน้อย ตัวผู้มีสีลำตัวเข้มกว่าตัวเมีย และมีลายแต้มที่หัว ปีกคู่หน้าย่น ปลายท้องมีแพนหาง จิ้งหรีดชนิดนี้ ชอบอาศัยตามกองไม้ กองใบไม้ ร่องดิน ออกหากินในเวลากลางคืน และไม่ขุดรูอาศัย
                         
วงจรชีวิต และพฤติกรรม
ระบบสืบพันธุ์
เพศผู้มีอัณฑะ คู่ และมีต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิสีขาวขุ่น น้ำอสุจิที่ถูกสร้างจำถูกนำผ่านท่อ
น้ำอสุจิมาเก็บไว้ที่ถุงพักน้ำอสุจิ และจะถูกนำออกทางท่อน้ำเชื้ออสุจิขณะผสมพันธุ์ ส่วนเพศเมียมีรังไข่สีเหลือง คู่ และมีท่อนำไข่ สำหรับนำไข่มารวมกันที่ท่อกลาง รวมถึงพบถุงเก็บน้ำเชื้ออสุจิจากเพศผู้หลังการผสมพันธุ์ ไข่จะถูกนำออกจากท่อนำไข่ผ่านเข้าฉีดเชื้ออสุจิก่อนไข่ตกออกมา
การสืบพันธุ์
ตัวผู้ และตัวเมียสามารถเริ่มผสมพันธุ์ได้หลังจากวางไข่ประมาณ 3-4 วัน การผสมพันธุ์ เริ่ม
ด้วยตัวผู้ส่งเสียงเรียกตัวเมียให้เข้ามาผสมพันธุ์ ช่วงแรกจะร้องเสียงยาว และดังนานเป็นช่วงๆ เมื่อตัวเมียมาใกล้จะเปลี่ยนเป็นเสียงร้องเบาฯ และถี่สั้น
การผสมพันธุ์ของจิ้งหรีดมี แบบ คือ ตัวเมียจะขึ้นคร่อมบนหลังตัวผู้ หรือ ตัวเมีย และตัวผู้หันหลังเข้าหากัน ซึ่งจะใช้เวลาผสมพันธุ์ประมาณ 10-15 วินาที แต่บางครั้งเมื่อตัวเมียไม่สนใจตัวผู้ก็มักจะไล่กัดกัน
การทำเสียง
เสียงจิ้งหรีดเกิดจากการใช้ขอบปีกคู่หน้าถูเสียดสีกันจนทำให้เกิดเสียง เสียงที่ทำขึ้นใช้เพื่อ
การสื่อสาร และช่วยดึงดูดเพศตรงข้ามเพื่อหาคู่ผสมพันธุ์
1) เสียง กริกฯ ดังนาน แสดงถึงการเรียกหาคู่
2) เสียง กริกฯ ดังเบา และถี่ แสดงถึงความต้องการผสมพันธุ์
3) เสียง กริกฯ ดังยาว 2-3 ครั้ง แสดงอาการโกรธ การต่อสู้ หรือ ให้ออกห่าง
4) เสียง กริกฯ ลากเสียงยาว แสดงถึงการบอกอาณาเขตของตน
การเคลื่อนไหว
การระวังภัยของจิ้งหรีดจะรับรู้จากแรงลม โดยใช้เส้นขนบริเวณลำตัวเป็นตัวรับความรู้สึก
พร้อมมีการเคลื่อนไหวตอบสนอง มี แบบคือ การกลับตัว การกระโดด และการวิ่ง หากได้รับลมทางด้านหลัง จิ้งหรีดจะกลับตัวก่อน แล้วค่อยกระโดด
การวางไข่
หลังจากผสมพันธุ์ 2-3 วัน ตัวเมียจะเริ่มวางไข่ โดยจะการวางไข่ไว้ใต้ดินที่มีความชื้น ดินมี
ความร่วนซุย โดยใช้อวัยวะวางไข่ลักษณะเรียวแหลม คล้ายเข็ม ยาวประมาณ 1.5 ซม. แทงลงในดินลึก 1.0-1.5 การวางไข่ ชุด ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชม. วางไข่เป็นชุดๆประมาณ 25 ชุด แต่ละชุดใช้เวลาประมาณ 3-4 นาที ตัวเมีย ตัว สามารถวาไข่ได้มากกว่า 1000 ฟอง ไข่จะฟักเป็นตัวหลังจากวางไข่ได้ประมาณ วัน นอกจากนั้น ยังพบจิ้งหรีดชนิดที่มีอวัยวะวางไข่ ยาวจะมีการวางไข่ในดิน จิ้งหรีดที่มีอวัยวะวางไข่เป็นรูปดาบ ขอบเป็นฟันเลื่อยจะวางไข่บนพืชที่อ่อนนุ่ม และพวกที่อวัยวะวางไข่ขอบเป็นฟันแข็งจะวางไข่บนพืชที่มีลักษณะหยาบ
ลักษณะตัวอ่อน
ตัวอ่อนที่ขนาดทุกส่วนของลำตัวเล็กกว่าตัวเต็มวัย ปีกงอกสั้น และมีสีลำตัว และสีปีก
จาง เจริญเติบโต และมีการลอกคราบเฉลี่ยประมาณ 5-14 ครั้ง ก่อนเข้าสู่ตัวเต็มวัย
ระยะตัวเต็มวัย
ระยะตัวเต็มวัยมีอวัยวะครบทุกส่วนเห็นได้ชัดเจน แบ่งเป็น ส่วน คือ
1) ส่วนหัว ประกอบด้วย หนวด คู่ ตา คู่ และส่วนปาก ส่วนนี้เชื่อมติดกับอกด้วยเนื้อเยื่อ
และอวัยวะระบบทางเดินอาหาร ทำให้ส่วนหัวเคลื่อนเคลื่อนขึ้นลง ซ้ายขวาได้ มีหนวดเป็นอวัยวะรับสัมผัส และรับกลิ่น
2) ส่วนอก ประกอบด้วย ปีก คู่ ขา คู่ และส่วนท้องที่เป็นระบบทางเดินอาหาร และอวัยวะสืบพันธุ์
อาหาร และการหาอาหาร
จิ้งหรีดตัวอ่อน และตัวเต็มวัยชอบหลบซ่อนตัวในเวลากลางวันตามกอหญ้า รอยแตกของ
ดิน หรือใต้กองไม้ เศษใบไม้ หรือต้นพืชแห้ง กลางคืนจะออกหาอาหารบริเวณใกล้กับแหล่งอาศัย โดยกัดกินต้นอ่อนของพืชเป็นอาหารหลัก
วงจรชีวิตของจิ้งหรีดทองแดง
• ไข่
ไข่จิ้งหรีดมีสีเหลือง อยู่รวมกันเป็นกลุ่มภายในดิน มีลักษณะเรียวยาว คล้ายเม็ดข้าว กว้าง
ประมาณ 0.005 ซม. ยาวประมาณ 0.2 ซม. ระยะไข่มีเวลาประมาณ วัน ก่อนฟักเป็นตัว
• ตัวอ่อน
ตัวอ่อนจิ้งหรีดระยะแรกลำตัวจะมีสีครีม แล้วค่อยๆเปลี่ยนสีเข้มข้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมีสี
น้ำตาล ตามด้วยหนวดที่ค่อยๆเจริญยาวตามวัย ปีกค่อยๆเจริญ แต่ยังปิดส่วนท้องไม่มิด หรือเรียกระยะนี้ว่า เสื้อกั๊ก ระยะเจริญของตัวอ่อนประมาณ 30-40 วัน ก่อนเป็นตัวเต็มวัย
• ตัวเต็มวัย
เมื่อเจริญจนตัวเต็มวัย ลำตัว และปีกมีสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลปนดำ ลำตัวกว้าง 0.6-0.7 ซม. ความยาวจากหัวถึงท้ายประมาณ 2.24 ซม. มีหนวดยาว เพศผู้ปีกคู่หน้าย่น ส่วนเพศเมียปีกคู่หน้าเรียบ ทั้งเพศผู้ และเพศเมียมีแพนหาง ยาว คู่ เพศเมียมีอวัยวะวางไข่ ยื่นยาวคล้ายเข็ม
วงจรชีวิตของจิ้งหรีดทองดำ
• ระยะไข่ และตัวอ่อน
มีลักษณะเหมือนจิ้งหรีดทองแดง
• ตัวเต็มวัย
เมื่อตัวอ่อนเจริญเต็มที่ สีลำตัว และปีกจะเปลี่ยนเป็นสีดำ หรือสีน้ำตาลเข้มปนดำ ช่วงกว้าง
ลำตัวประมาณ 0.7 ซม. ส่วนหัวถึงท้ายยาวประมาณ ซม. ปลายปีกคู่หลังยื่นยาวเลยท้ายลำตัว และส่วนของท้องมีแพนหางยาว คู่ เพศผู้มีปีกคู่หน้าย่น โคนปีกมีจุดสีเหลือง ส่วนเพศเมีย ปีกคู่หน้าเรียบ สีดำ  มีอวัยวะวางไข่ยาว แหลมยาวคล้ายเข็ม
3. สภาพการผลิตและการจำหน่ายจิ้งหรีด
นายเพ็ชร  วงค์ธรรม  เริ่มมีการเลี้ยงจิ้งหรีดมาแล้ว 9 ปี (เริ่ม ปี 2550) สาเหตุของการเลี้ยงจิ้งหรีดเนื่องจาก อาชีพเดิมคือการเพาะถั่วงอก ประสบปัญหาในการเพาะในเรื่องเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวที่หายาก และมีราคาแพง ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง จึงมีความสนใจที่จะมองหาอาชีพใหม่อยู่แล้ว พอไปเยี่ยมเพื่อที่อำเภอกัณทรวิชัยจึงสนใจและสอบถามข้อมูลการเลี้ยงจากเพื่อน โดยเฉพาะค่าตอบแทนที่สูง และการดูแลรักษาที่ง่าย จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการเลี้ยงจิ้งหรีด
        การปรับปรุงการผลิต ดำเนินการมาแล้ว 7 ปี  สาเหตุที่มีการปรับปรุงการผลิตเนื่องจาก
กระทบกับผลผลิตและการจัดการเพื่อความสะดวกการดูแลรักษา ได้แก่
                1) เดิมใช้บ่อวงกลม ปรับมาเป็นบ่ออิฐบล็อกเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพื่อประหยัดเนื้อที่ในการเลี้ยง และการดูแลรักษา การเก็บผลผลิตเพื่อจำหน่าย ที่ง่ายขึ้น
                2) สร้างโรงเรือนถาวร ป้องกันการแมลงศัตรู ได้แก่ จิ้งจก มด ได้ง่ายกว่าแบบเดิม
                3) การให้น้ำ จากเดิมที่ให้ในถาด ปรับปรุงใช้ที่ให้น้ำไก่พันผ้าแทน เนื่องจากจิ้งหรีดจะไม่จมน้ำตาย
                4) ผ้าที่ใช้พันรอบฐานที่ให้น้ำไก่จะต้องเป็นผ้าที่ไม่มีขน เป็นผ้ายืดลื่นเท่านั้น เพราะขาจิ้งหรีดจะเป็นลักษณะหนามแหลม หากจิ้งหรีดกินน้ำจะขาจะเกี่ยวผ้า และทำให้จิ้งหรีดตายได้
                5) อาหารจากเดิมใช้อาหารไก่ เป็นอาหารจิ้งหรีด ตามคำแนะนำของบริษัท
สภาพการผลิต
1. พันธุ์ที่เลี้ยง จิ้งหรีด มี 2 พันธุ์ (เรียกตามผู้เลี้ยง)
                1) ทองดำ
                2) ทองแดง (แมลงสะดิ้ง)

                1) ทองดำ อายุ 35 -40 วัน ราคาดี แต่เลี้ยงยากกว่าแมงสะดิ้ง
                                              
                2) ทองแดง หรือแมงสะดิ้ง อายุเลี้ยง 45 วัน เลี้ยงง่าย แต่อายุการเก็บนานกว่าพันธุ์ทองดำ

      กระบวนการเลี้ยง
                1) การสร้างโรงเรือน เป็นโรงเรือนถาวร ที่มีขนาด ยาว 20 เมตร กว้าง 10 เมตร สูง 2.5 เมตร มีโครงสร้างที่มั่นคง ติดมุ้งเขียวเพื่อป้องกันแมลง และสัตว์ ที่เป็นศัตรูจิ้งหรีด โรงเรือนควรมีลักษณะที่สูงโปร่ง ระบายอากาศได้ดี
                2) สร้างบ่อเลี้ยง โดยใช้อิฐบล็อกขนาด 2.8x4 เมตร ใช้อิฐ  230 ก้อน และต้องฉาบด้านข้างให้เรียบร้อย ไม่ให้มีรู ขอบด้านบนทั้งสี่ด้านจะต้องติดกระเบื้องมัน หรือใช้เทปกาวติด ป้องกันจิ้งหรีดไต่หนี ต้นทุนรวมค่าแรง ประมาณ 2,000-2,200 บาท เป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว ตั้งแต่ปรับปรุงเป็นบ่อแบบนี้เป็นเวลา 7 ปี ยังไม่ได้ทำใหม่หรือมีการซ่อมแซมเลย
 ลักษณะคอกเลี้ยงจิ้งหรีด
                3) เตรียมไข่จิ้งหรีด อุปกรณ์ ขันพลาสติก ดิน (แกลบดำ) น้ำเปล่าสะอาด

                       
  อุปกรณ์ในการเพาะไข่จิ้งหรีด

ผสมดินกับน้ำสะอาดปั้นดูอย่าให้แฉะ แล้วนำมาขัน แล้วเอาไปไว้ในบ่อเมื่อได้ยินเสียงจิ้งหรีดร้อง ใส่ไว้ 1 คืน
                 4) อุปกรณ์สำหรับการเลี้ยง ประกอบด้วย แผงไข่ ถาดใส่น้ำ ถาดใส่อาหาร
      
 อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงจิ้งหรีด
- ถาดรองไข่ไก่ เป็นอุปกรณ์สำหรับหลบซ่อนตัวของจิ้งหรีด ราคา 1 -2 บาท/ชิ้น 1 คอกใช้ 1,2000 ชิ้น
- ถาดใส่น้ำ ต้องใช้ผ้ายืดชุมน้ำพันรอบ เพื่อให้จิ้งหรีดไม่จมน้ำ 1 คอกใช้ 14 อันๆละ 30 บาท
- ถาดอาหาร อันละ 10 บาท 1 คอกใส่ 60 อัน
      5) การเลี้ยงจิ้งหรีด 1 บ่อใส่ไข่จิ้งหรีด 20 ขัน ประมาณ 10 วันแตกเป็นตัวอ่อน   อายุถึงตัวแก่ ทองดำ 35 วัน แมงสะดิ้ง 45 วัน ในหน้าร้อน หน้าหนาวจะนานขึ้น
      6) การให้อาหาร 1 บ่อ ใช้อาหาร 2 แบบ คือ
        - อายุ แรกเกิด- 20 วัน ใช้อาหารโปรตีน 20ราคา 525 บ/กระสอบๆละ 30 กก.
         - อายุ 21- เก็บ ใช้อาหาร โปรตีน 14ราคา 425 บ/กระสอบๆละ 30 กก.



 สภาพการเลี้ยง ให้อาหารและน้ำ
การตลาด
- จำหน่ายในราคา 80-100 บาทขึ้นอยู่กับฤดูกาล และปริมาณของจิ้งหรีด
- แหล่งรับซื้อ ได้แก่ จ.อุดรธานี ขอนแก่น มหาสารคาม

4. สภาพการจัดการความรู้สู่บุคคลในครัวเรือน
 -  มีการถ่ายทอดความรู้โดยเรียนรู้ร่วมกันระหว่างคนในครัวเรือนเนื่องจากการเลี้ยงจิ้งหรีด
เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของครอบครัว จึงเป็นสิ่งที่จะต้องรับรู้ร่วมกันว่าในขั้นตอนการเลี้ยงมีกระบวนการและดำเนินการอย่างไร โดยนายเพร็ช มีการถ่ายทอดความรู้ให้บุคคลในครอบครัวดังนี้
1. กระบวนการเลี้ยง  โดยทุกคนในครอบครัวจะเป็นแรงงานสำคัญในการเลี้ยงจิ้งหรีด โดยมีรายละเอียดดังนี้
                1.1 การสร้างบ่อเลี้ยง นายเพร็ชจะสร้างบ่อเองเลี้ยงเอง โดยให้พี่ชาย และภรรยาช่วยเป็นแรงงาน จึงทำให้ทุกคนทราบว่าสร้างบ่อทำได้อย่างไร 
                1.2 การทำความสะอาดบ่อเลี้ยงก่อนเลี้ยง ทุกคนในครอบครัวจะมาช่วยทำความสะอาดเก็บกวาดโรงเรือนให้สะอาดก่อนเลี้ยง เป็นการเรียนรู้โดยการปฏิบัติร่วมกัน
                1.3 การเตรียมอุปกรณ์สำหรับเลี้ยง อธิบายและชี้แจงให้ทุกคนในครอบครัวรู้ว่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการเลี้ยงจิ้งหรีดว่าแต่ละอย่างให้ทำอะไร มีความสำคัญอย่างไร และราคาเท่าไร สามารหาซื้อได้จากที่ไหน จะบันทึกเบอร์โทรศัพท์ไว้ในสมุดบันทึก
                1.4 การเลี้ยง การให้อาหาร โดยจะต้องให้ความสำคัญต่อการเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยจะต้องให้อาหารแต่เช้า ทิ้งไว้ในถาดได้เลย แล้วในช่วงเย็นๆต้องมาดูว่าอาหารหมดหรือไม่ หากหมดจะต้องเติมให้มีอาหารตลอด โดยจิ้งหรีดจะกินอาหารมากในช่วงแรก
                1.5 การจิ้งหรีดเพื่อจำหน่าย ทุกในครอบครัวจะเป็นแรงงานในการจับจิ้งหรีดขายจะได้เรียนรู้ร่วมกันในเรื่องของการจับจิ้งหรีด
2. การจัดการหลังจับจิ้งหรีด พ่อค้าจะเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้เรื่องนี้ ซึ่งเมื่อจับจิ้งหรีดได้แล้วจะต้องมาชั่งให้ได้ขนาดถุงละ 5 กิโลกรัม บรรจุลงถังน้ำแข็ง หรือกล่องโฟม แล้วรีบใส่น้ำแข็งทันที  เพื่อให้ไม่เน่าเสีย โดยภรรยาและพี่ชายภรรยาจะต้อมาช่วยในจุดนี้ด้วย ทั้งนี้ทุกคนในครอบครัวจะทราบว่าขั้นตอนนี้เป็นอย่างดี
3. การตลาด นายเพ็รช บอกรายละเอียดการจำหน่าย รายชื่อร้านจำหน่าย และเบอร์โทรศัพท์  และแนะนำผู้ซื้อให้กับภรรยา เพื่อเป็นผู้ติดต่อประสานงานร่วมกับนายเพ็รช
4. ด้านทุน/การเงิน การลงทุนในการเลี้ยงจิ้งหรีด จะถ่ายทอดสู่ภรรยา ต้นทุนการผลิตมีค่าใช้จ่ายอะไร โดยให้ภรรยา เป็นผู้จัดทำบัญชี และในบางครั้งจะให้ลูกสาวเป็นผู้ช่วยจดบันทึก
5. การแปรรูปจิ้งหรีด นายเพ็ชร จะเป็นที่รู้จักและมีหน่วยงานราชการมาช่วยสนับสนุน เช่น ศูนย์ส่งและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดขอนแก่น (ศูนย์ผึ้ง) และมหาวิทยาลัยขอนแก่น สอนการแปรรูปจิ้งหรีด ได้แก่ ข้าวเกรียบ น้ำพริกจิ้งหรีด โดยจะสอนและถ่ายทอดให้นายเพ็ชร ภรรยา และเพื่อนบ้านให้เรียนรู้ร่วมกัน
6. การวิทยากรเพื่อถ่ายทอดความรู้สู่บุคคลผู้มาศึกษาดูงาน ภรรยา และลูกก็ได้ความรู้ไปด้วยเพราะมีการรับฟังเกือบทุกครั้งที่มีผู้มาศึกษาดูงาน
5. ข้อคิดเห็น
จุดเด่น
                เป็นการจัดการความรู้ที่ถ่ายทอดสู่บุคคลในครัวเรือน เป็นการเรียนรู้ร่วมกันในชีวิตประจำวัน มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต ทำให้การจัดการความรู้ เป็นไปได้ง่าย และประสบผลสำเร็จ
จุดด้อย

                นายเพ็ชร ผู้ถ่ายทอดความรู้มีบทบาทหน้าที่มากมาย ไม่ค่อยมีเวลาให้กับการเลี้ยงจิ้งหรีด ควรมีการจัดทำคู่มือการเลี้ยงไว้เพื่อสามารถปฏิบัติตามได้ง่ายขึ้น หรือจัดทำภาพประกอบไว้ในแต่ละขั้นตอน และต้องวิเคราะห์หาจุดบกพร่องเพื่อหาทางแก้ไข

คู่มือการเลี้ยงจิ้งหรีด (2557). ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรขอนแก่น. กรมส่งเสริมการเกษตร.


เอกสารอ้างอิง

จิ้งหรีด และการเลี้ยงจิ้งหรีด (2559). ค้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2559 , จาก http://pasusat.com/จิ้งหรีด/

เพ็ชร  วงค์ธรรม.(4 เมษายน 2559).สัมภาษณ์. หัวหน้าครัวเรือน
เพ็ชร วงค์ธรรม.(29 เมษายน 2559).สัมภาษณ์. หัวหน้าครัวเรือน
เพ็ชร  วงค์ธรรม.(30 เมษายน 2559).สอบถามทางโทรศัพท์. หัวหน้าครัวเรือน
อุไรวรรณ วงค์ธรรม. ( 29 เมษายน 2559). สัมภาษณ์. สมาชิกครัวเรือน